วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ความประทับใจที่มีต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย

ความประทับใจที่มีต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย
พระเทพญาณมหามุนี
เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

เราเห็นท่านครั้งแรก
ในข่าวโทรทัศน์ เมื่อปี 42
ตอนนั้นยังเด็ก ไม่รู้เรื่องอะไร
แต่รู้สึกดีมากที่ไม่รู้เรื่องอะไร
ไม่เช่นนั้น เราอาจเข้าใจวัดและหลวงพ่อผิด
ไปตามข่าวหรือสื่อพวกนั้น ไปแล้ว

ด้วยความใสๆ ในวัยเด็ก
เห็นท่านแล้ว รู้สึกทันทีว่า
พระรูปนี้ท่านผ่องใสมาก
ท่านดูนิ่งๆ แต่มีคนพยายามเข้ามา
กล่าวหาอะไรท่านไม่ทราบ
ก็ไม่ได้สนใจอะไร

แต่เมื่อได้มาพบหลวงพ่อท่านอีกก็ตอนเรียนมหาวิทยาลัย
ถึงได้เข้าวัดทำบุญจริงๆ จังๆ
และเข้ารับการอบรมต่างๆ จากทางวัด

ทำให้เราได้เข้าใจลึกซึ้งถึงมโนปณิธาน
ในการทำดีแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพันของท่าน
และเราก็ได้เดินมาสายนี้
โดยมีท่านเป็นต้นแบบ
และมีพระอาจารย์ พี่ๆ ชมรมพุทธฯ 
เป็นกัลยาณมิตรเสมอมา

สิ่งที่ประทับใจ...
จริงๆ แล้ว น่าจะเป็นเรื่อง 

สมาธิ

ที่ท่านได้เมตตาสอนและนำนั่ง
ด้วยวิธีการที่ง่ายๆ สบายๆ
ทำให้ธรรมะเข้าใจง่าย และเรื่องสนุก

เมื่อเกิดเหตุการณ์สูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิต

คือการสูญเสียพ่อผู้ให้กำเนิด

เราก็ใช้สมาธิ ในการกำหนดสติ
ให้ตั้งมั่น และคิดว่าเป็นสิ่งธรรมดา
ที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน
แม้ตัวเราเองก็ต้องพบเจอ ในสักวันหนึง

ทำให้เราทำใจได้ และยังเป็นกัลยาณมิตรให้แม่
ได้เข้าวัดพระธรรมกาย
เพื่อส่งบุญไปให้พ่อ และเชิญชวนให้แม่
ได้ปฏิบัติธรรม
เพื่อความสงบสุขของใจ อีกด้วย
ซึ่งแม่เองก็ทำใจได้อย่างดี
อยู่กับปัจจุบัน
และกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ
ที่สุดเท่าที่จะทำได้

เพราะทุกชีวิตต้องเดินต่อไป

ท่านทำให้เรามีที่พึ่งที่ระลึกภายใน
ทำให้เรามีความสุขได้
แม้ในช่วงเวลาที่สุดแสนจะทุกข์

และที่สำคัญ

ท่านเป็นกำลังใจให้กับชาวพุทธ
ในการสร้างบุญ สร้างบารมี
เพราะท่านแม้จะอาพาธหรือป่วยหนักมาก
ท่านก็ยังเป็นกัลยาณมิตรชักชวน
ชาวโลก ให้มาปฏิบัติธรรม
เพื่อให้เกิดความสุข
ขยายเป็นสันติภาพของโลกได้
แม้นานาประเทศก็ยกย่องท่าน
และได้ถวายรางวัลอันทรงเกียรติแด่ท่าน
มากมายนับไม่ถ้วน

พระเทพญาณมหามุนี
เป็นผู้มอบแสงสว่างให้แก่ชีวิตของเราและครอบครัว
ท่านปิดอบาย เปิดสวรรค์ให้กับชาวโลก
ท่านเป็นผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่

เราจะช่วยกันปกป้องท่านให้ถึงที่สุด
เพราะท่านสร้างแต่คุณงามความดีมายาวนาน
ตลอดชีวิตของท่าน

เรารักหลวงพ่อ เรารักพระพุทธศาสนา

เราจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำลาย
เหยียบย่ำ ย่ำยี จาบจ้วง
พระรัตนตรัย พระพุทธศาสนา...


aohheart
6 พ.ค. 59

ความประทับใจที่มีต่อคุณยายอาจารย์ฯ

ความประทับใจที่มีต่อ
คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง
ผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย

สิ่งที่ประทับใจคือ

ความเด็ดเดี่ยว

ความเด็ดเดี่ยวของท่านในการสร้างวัดพระธรรมกาย
จากเงิน 3,200 บาท เมื่อท่านอายุ 60 ปี
ซึ่งคนทั่วไปจะเข้าสู่วัยเกษียณ
แต่ท่าน หาที่ในที่
จนสร้างวัดพระธรรมกายได้

ทุกวันนี้เริ่มมีคนศรัทธามากยิ่งขึ้น
มาวัดกันมากขึ้น
ท่านได้สร้างวัดมาจนถึงยุคเราในปัจจุบัน
ได้สร้างบุญใหญ่กันอย่างตลอดต่อเนื่อง
แม้ในปัจจุบัน วัดพระธรรมกายเอง
ก็ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์

แต่ก็ใช้งานได้เสมอ
แม้จะยังไม่พร้อมในหลายๆ ด้าน
เรียกได้ว่า สร้างไป ใช้ไป

สำหรับคำสอนของคุณยายที่ประทับใจคือ

ความสะอาด

ทุกๆ จุดในวัดพระธรรมกายจะสะอาดเอี่ยม
พร้อมใช้งานอยู่เสมอ 
พร้อมต้อนรับญาติโยมอยู่ตลอดเวลา
ใครพบเห็นก็จะใจสงบได้ง่าย
แม้ขยะยังเรียกว่า เพชรพลอย
เพราะต่อไปในอนาคต 
สิ่งนี้จะมีคุณค่ามากมายมหาศาล

นอกจากนี้ ยังทำให้ทุกคนที่มาวัด
มีความรู้สึกรัก และเป็นเจ้าของวัด
เราต้องช่วยกันดูแล

และเรามักจะเห็นคำสอนยายอยู่เสมอ
เวลาเข้าแถวไปรับข้าวตามจุดรับอาหารต่างๆ 
ในสภาธรรมกายสากล
ท่านบอกว่า

มาวัดร้อยเลี้ยงร้อย มาวัดล้านเลี้ยงล้าน

แรกๆ ก็เข้าใจว่า 
มาวัดไม่ต้องกลัวอดนะ 
อิ่มท้อง อิ่มใจ และก็อิ่มบุญ

แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจกว่านั้นคือ
ท่านทราบแล้ว
ว่าในอนาคต จะมีผู้มีบุญ
มาวัดพระธรรมกายเป็นล้านคน

ตรงนี้ต่างหาก ที่สะดุดใจเราเป็นอย่างมาก

เพียงแค่คุณธรรมพื้นฐานของท่าน
เรายังรักและเคารพคุณยายฯ 
มากขนาดนี้...

แล้วธรรมะภายในล่ะ

เมื่อได้ศึกษาประวัติของท่านแล้ว
เรายิ่งรักและเคารพท่านมากขึ้นไปอีก...


aohheart
6 พ.ค.59

วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559

ชีวิตดีขึ้น เมื่อบุญมาถึง

ชีวิตดีขึ้น เมื่อบุญมาถึง

คำว่า ชีวิต ...ดี๊ดี...
ของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน

บางคน คิดว่า ชีวิตจะดีขึ้น ก็ต่อเมื่อ ไม่มีหนี้
การที่จะหมดหนี้ได้ก็ขึ้นอยู่กับวินัยการใช้จ่าย
การเก็บหอมรอบริบ
หลายคนคิดสั้น ฆ่าตัวตายเพื่อหนีหนี้
แต่หารู้ไม่ว่า ชีวิตหลังความตายนั้น
มันยิ่งกว่า ทรมานสุดๆ
เป็นกรรมหนักมากจริงๆ 
นอกจากหนี้สินจะไม่หมดแล้ว 
ยังก่อเวรก่อกรรมให้กับตนเองและคนรอบข้างอีก
แต่หนี้จะมากมายขนาดไหน
ก็ต้องพ่ายแพ้ความเพียรพยายาม
ความตั้งใจจริง ที่จะผ่านพ้นมันมาให้ได้

หรือ บางคนคิดว่า 
ชีวิตจะดีขึ้น ก็ต่อเมื่อ หายป่วย
ความเจ็บไข้ได้ป่วยนั้น
เป็นความมันทรมานทั้งกายและใจ
ทั้งผู้ป่วยเองและคนรอบข้าง
หลายคนบอกว่า ถ้าหายป่วย 
จะทำบุญให้มากขึ้น
ทางพระพุทธศาสนาสอนว่า
โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เกิดจากการกระทำของตน
ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
หากรู้อย่างนี้แล้ว หาวิธีการป้องกันไว้ดีที่สุด
 กรรมในอดีตกลับไปแก้ไม่ได้ 
แต่ก็ควรเลิกทำ แล้วอุทิศส่วนบุญให้
คู่กรรมคู่เวร
ป่วยก็หาย ร้ายก็กลายเป็นดีได้
ส่วนในปัจจุบันนั้น ก็ต้องดูแลสุขภาพ
ทั้งอาหารการกิน การสังเกตตัวเอง
การตรวจสุขภาพ ออกกำลังกาย

หรือ บางคนบอกว่า
ชีวิตจะดีขึ้น ก็ต่อเมื่อ มีทรัพย์สมบัติ
มากมาย เหลือกินเหลือใช้
เราเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับคนที่ประสบความสำเร็จ
ในการทำธุรกิจหรืออาชีพใดก็ตาม
ส่วนใหญ่แล้ว เขาเริ่มจากศูนย์
เกือบทั้งนั้น 
เราค่อยๆ ศึกษาวิธีการทำงานของเขา
วิธีการคิดของเขา
คิด พูด ทำ แบบไหน?
ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ
สิ่งเหล่านี้ ก็จะเป็นทางมาแห่งทรัพย์ นั่นเอง
แต่หากบุคคลนั้น ไม่เคยทำทาน มาเลย
บุญที่เกิดจากการทำทาน ก็น้อย 
ทรัพย์สมบัติก็ไม่ค่อยไหลมาเทมาเท่าไหร่
รู้อย่างนี้แล้ว ก็ต้องเร่งความบุญทำทาน
กันให้มากขึ้น เพื่อเป็นเสบียงในชาติต่อๆ ไป

ชีวิตจะดีขึ้น ก็ต่อเมื่อ...
อะไรก็แล้วแต่นิยามของแต่ละคน

อะไรที่เกิดขึ้นแล้วไม่ว่าจะดีหรือร้าย
ย่อมทำให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น

...ดังนั้น...
ชีวิตของคนเราเรา จึงขาดบุญไม่ได้จริงๆ 

เราใช้บุญเก่าไปทุกๆ ลมหายใจ
หากไม่สร้างบุญใหม่เพิ่ม
บุญเก่าก็ค่อยๆ ลดน้อยลง
รอเวลาหมดบุญ คงไม่ดีแน่

ดังนั้น ชีวิต...ดี๊ดี...ของเรา ในตอนนี้
แค่ไม่มีหนี้สิน ร่างกายแข็งแรง
มีทรัพย์สินเงินทอง พอมีพอใช้ไปตลอดชีวิต
ก็ดีงามแล้ว
ซึ่งถือว่า บุญ ก็กำลังส่งผลอยู่

แต่ ชีวิต...ดี๊ดี...ของเรา ในอนาคต
อาจหมายถึง 
เราได้ปลดปล่อยวางจากพันธนาการ
ทุกสิ่งทุกอย่าง

มีเวลาในการปฏิบัติธรรม
ค่อยๆ ฝึกไปเรื่อยๆ ให้ใจเราค่อยๆ หมดกิเลส
ไปถึงที่สุดแห่งธรรมได้

เรียกว่า มีอิสรภาพทางการเงิน
และ
อิสรภาพทางเวลา อย่างแท้จริง

และนี่...อาจจะเป็น ชีวิต...ดี๊ดี...
ที่หลายคนแสวงหาอยู่...ก็เป็นได้


...aohheart
16 มี.ค. 59

ทำบุญแล้วชีวิตฉันดีขึ้นอย่างไร?

ทำบุญแล้ว ชีวิตฉันดีขึ้นอย่างไร?

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า
การทำบุญ คือ อะไร
ได้แก่ อะไรบ้าง
ตามความเข้าใจของเราตอนนี้เลย

การทำบุญ คือ สิ่งที่ทำแล้วสบายใจ
ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองและคนอื่น
เมื่อนึกถึงแล้วปลื้มใจที่ได้กระทำลงไป

บุญ คือ ความปลื้มอกปลื้มใจ
สบายกายสบายใจ
ยกระดับจิตใจให้ดีขึ้น
ไม่ตระหนี่ เสียดายทรัพย์
ไม่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้
มีแต่ความเสียสละ แบ่งปัน

ดังนั้น การทำบุญ ไม่ใช่เพียงแต่บริจาคเท่านั้น
แต่มีหลากหลายอย่าง 
ทางพระพุทธศาสนา เรียกว่า

บุญกิริยาวัตถุ 10 ประการ

1. บุญเกิดจากการให้ทาน
ได้แก่ บริจาคเงิน สิ่งของ ใส่บาตร
ให้ธรรมะเป็นธรรมทาน การให้อภัยทาน 
ปล่อยปลาให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน
ถวายสังฆทาน ถือว่าได้บุญสูงสุด
เนื่องจากเป็นการถวายแบบไม่เฉพาะเจาะจง

2. บุญเกิดจากการรักษาศีล
ได้แก่ ศีล 5 คือ ความเป็นปกติของมนุษย์
(ไม่ฆ่า ไม่ลัก ไม่ประพฤติผิดในกาม 
ไม่พูดปด ไม่ดื่มน้ำเมา)
ศีล 8 สำหรับผู้ต้องการฝึกตนให้ยิ่งขึ้น
ศีล 10 สำหรับสามเณร
ศีล 227 สำหรับพระภิกษุสงฆ์

3. บุญเกิดจากการเจริญภาวนา
ได้แก่ การนั่งสมาธิ ทำให้ใจหยุด นิ่ง
ทำให้เกิดสติปัญญา

4. บุญเกิดจากการอ่อนน้อมถ่อมตน

5. บุญเกิดจากการขวนขวายในกิจที่ชอบ 
ได้แก่ การเป็นอาสาสมัครช่วยงานวัด
ช่วยเหลืองานส่วนรวม
เป็นต้น

6. บุญเกิดจากการอุทิศบุญ
เช่น การกรวดน้ำ แผ่เมตตา ให้แก่บรรพบุรุษ
และสรรพสัตว์ทั้งหลาย

7. บุญเกิดจากการอนุโมทนาบุญ
เมื่อมีคนทำความดี เราแสดงมุทิตาจิต
ยินดีกับความดีของเขาไปด้วย
ทำให้ลดความอิจฉา ริษยา

8. บุญเกิดจากการฟังธรรม
ได้แก่ ฟังธรรมะจากพระสงฆ์
 หรือฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่
เพราะพ่อแม่คือพระอรหันต์ของลูก

9. บุญเกิดจากการแสดงธรรม
ได้แก่ การชี้แนะในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม

10. บุญเกิดจากการทำความเห็นให้ตรง
คือ มีความเห็นชอบต่อสิ่งเหล่านี้
ได้แก่ ทานที่ให้แล้วมีผลจริง ยัญมีผลจริง 
การบูชามีผลจริง วิบากกรรมดีกรรมชั่วมีผลจริง
โลกนี้มีจริง โลกหน้ามีจริง
สัตว์ที่ผุดเกิดขึ้นได้เองมีจริง
พระคุณพ่อมีจริง พระคุณแม่มีจริง
พระอรหันต์ผู้รู้แจ้งโลกนี้โลกหน้ามีจริง

สามารถกระทำบุญได้อย่างหลากหลาย
หากทำบุญแบบ เอาชีวิตเป็นเดิมพัน
อย่างนั้นเรียกว่าเป็น บารมี

แค่ได้เกิดมาแล้วรู้วิธีการทำบุญ
แค่นี้เราก็รู้สึกว่า บุญ ของเราจริงๆ แล้ว

ดั้งนั้น ตั้งแต่เราได้เกิดมา 

พบเจอพระพุทธศาสนา
มีครอบครัวที่อบอุ่น คุณแม่เข้าใจกฎแห่งกรรม
เนื่องจากเราพาคุณแม่มาทำบุญที่วัดพระธรรมกาย
แม้ตอนนี้คุณพ่อจะจากไปแล้ว
แต่เราก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้
มีกัลยาณมิตร คอยชี้แนะในทางดีงาม
เราได้เรียนจบปริญญา
 มีหน้าที่การงานที่ดี
มีคนรอบข้าง เพื่อนร่วมงานและสิ่งแวดล้อมที่ดี
มีฐานะทางครอบครัวที่ดี
มีสุขภาพที่แข็งแรง
มีกำลังใจปฏิบัติธรรม
พบความสุขจากสมาธิ
ประสบความสำเร็จในชีวิต
ทั้งทางโลกและทางธรรม

เพียงเท่านี้

เราก็รู้สึกว่า บุญ ที่เราได้สั่งสมมานั้น
ได้ส่งผลให้ชีวิตเราดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ

เราจึงมั่นใจและเชื่ออย่างยิ่งว่า

บุญ  อยู่เบื้องหลังความสุข
และความสำเร็จในชีวิต


...aohheart
16 มี.ค.59







วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559

นั่งสมาธิแล้ว ชีวิตฉันดีขึ้นอย่างไร?

นั่งสมาธิแล้ว ชีวิตฉันดีขึ้นอย่างไร?

คำว่า สมาธิ สำหรับเรานั้น 

สมาธิ คือ การจดใจนิ่งอยู่กับสิ่งๆ หนึ่ง 
เป็นระยะเวลานานๆ ได้

พูดถึงการนั่งสมาธิ
แบบง่ายๆ เลย คือ ต้องสบายทั้งกายและใจ

แต่ก่อนเราฝึกหลายๆ แบบ
ทั้งนับลมหายใจ (ครูสอนตอนสมัยเรียนมัธยม)
ต้องขอบพระคุณอาจารย์อารมณ์ จรเจริญ
สอนวิชาฟิสิกส์ แต่ก่อนเรียน ให้นั่งสมาธิก่อน
(ตอนแรกก็งงๆ ว่าวิชานี้สอนอะไรกันแน่ 
วิชาพระพุทธศาสนาก็สอนให้นั่งสมาธิ
อันนี้พอเข้าใจได้ 
ก็เลยงงๆ กันไปตามประสาเด็ก)

พอโตขึ้นเข้าใจแล้ว 
ว่าเราจะทำอะไรก็ต้องมีสมาธิทั้งนั้น
จะอ่านหนังสือ จะกวาดบ้าน ถูบ้าน
ขับรถ ข้ามถนน...ต้องใช้สมาธิ
  
แต่แบบไหนล่ะ ใจเราจะนิ่งได้
พุทโธ พุทโธ ตามลมหายใจ เข้าออก
ยุบหนอ พองหนอ ตามลมหายใจมาที่หน้าท้อง
เราก็ฝึกมาหมดแล้ว

แต่วิธีสุดท้าย คือ การภาวนาสัมมาอะระหัง
เบาๆ ไปเรื่อยๆ นึกว่ามีเสียงออกมาจากลำโพง
ที่อยู่กลางลำตัว
ฟังไปเรื่อยๆ ถ้ามีเรื่องอื่นเข้าแทรก ก็ปล่อยไปก่อน
จนเราตั้งสติได้ค่อย ภาวนาใหม่
ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ 

จนฟุ้งมากกลายเป็นน้อย
และน้อยกลายเป็นใจหยุดนิ่งได้เลย
แต่ต้องใช้เวลาสักหน่อย
สำหรับตัวเราแล้ว
ต้อง 1-2 ชัวโมงขึ้นไป ถึงจะได้
ถ้าเลิกก่อน ใจก็จะยังไม่หยุดสนิท

ซึ่งเป็นวิธีการปฏิบัติธรรม 
เพื่อให้เข้าถึงวิชชาธรรมกาย
ที่เราได้ฝึกปฏิบัติจากวัดพระธรรมกาย

พระเดชพระคุณหลวงปู่สด
วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
ท่านได้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้
แล้วนำมาถ่ายทอดสอนรุ่นต่อรุ่น

การภาวนาสัมมาอะระหัง
และ
หยุด เป็นตัว สำเร็จ

จนมาถึงคุณยายอาจารย์
มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง
ผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย
และมาถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย
พระเทพญาณมหามุนี เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
มาถึงพวกเราเหล่าสาธุชน

สมาธิ ที่เราได้ฝึกจากที่นี่นั้น
มีความละเอียดลุ่มลึกไปตามลำดับ
เริ่มจากทำให้ใจเราสงบ ชุ่มเย็น
สบายทั้งกายและใจ
ระบบความคิดปลอดโปร่ง
ระบบการทำงาน การวางแผน มีระบบระเบียบ

เมื่อเราฝึกมากๆ บ่อยๆ 
สมาธิจะเป็นทางมาแห่งสติปัญญา
รู้ผิดชอบชั่วดี บาปบุญคุณโทษ
ไปจนถึงหมดกิเลส เข้าพระนิพพานได้เลย

แต่การจะไปถึงจุดๆ นั้น ต้องอาศัย
ความต่อเนื่อง ความเพียร พยายาม
ความอดทนและตั้งใจจริง

สมาธิ ทุกคน ทำได้ ถ้าตั้งใจจริง


...aohheart
15 มี.ค.59










วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2559

มาวัดพระธรรมกายแล้ว ชีวิตฉันดีขึ้นอย่างไร?

ม า วั ด พ ร ะ ธ ร ร ม ก า ย แ ล้ ว
ชี วิ ต ฉั น ดี ขึ้ น อ ย่ า ง ไ ร ?

เรารู้จักวัดพระธรรมกายเมื่อปี พ.ศ. 2547
ตอนนั้นอยู่เรียนมหาวิทยาลัย
ได้เข้าชมรมพุทธศาสน์ฯ
ต้องบอกก่อนเลยว่า
เป็นชมรมเดียวที่น่าอยู่ อบอุ่น
เป็นกันเองมากๆ

ทั้งสถานที่ก็สะอาด ข้าวของเป็นระเบียบ
พูดจาไพเราะ คะ ขา พี่ น้อง
(คุยกับเพื่อนที่คณะยังไม่เพราะขนาดนี้ 555)
และมีกิจกรรมตลอดต่อเนื่อง

ทั้งกิจวัตรที่ทำทุกวัน 
ได้แก่ สวดมนต์ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น 
นั่งสมาธิ เล่าธรรมะ เข้าค่าย จัดค่าย
จัดงานตักบาตร จัดงานจุดโคมประทีป
ฟังเทศน์ฟังธรรมจากพระอาจารย์
ที่ท่านได้เมตตาเดินทางมาจากวัดพระธรรมกาย
ทุกวันพฤหัสบดี

และกิจกรรมเข้าค่ายทีชมรมพุทธศาสตร์สากลฯ
จัดสอบตอบปัญหาธรรมะ
กิจกรรมเข้าค่ายและหล่อหลอม
ร่วมกับเพื่อนๆ ชมรมพุทธฯ ต่างมหาวิทยาลัย
บอกบุญกฐิน ทำหน้าที่กัลยาณมิตร
และชวนอบรมธรรมทายาทช่วงปิดเทอม
ทั้งชายและหญิง
เรียกว่ากิจกรรมแน่นเอี้ยดในแต่ละวัน
เวลาที่อยู่มหาวิทยาลัย 4 ปี
เลยดูสั้น ผ่านไปรวดเร็วมาก

สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา
ทั้งทางโลก ไม่ว่าจะเป็น
ความมีวินัย ตรงต่อเวลา การทำงานเป็นทีม
ความเสียสละ การคิดวิเคราะห์ตัดสินใจ
การทำงานอย่างมีระบบ มีขั้นมีตอน
รู้จักวางแผน
การพูดในที่สาธารณะ 
บุคลิกภาพ ทำให้เป็นคนจิตใจเย็น
มีสติ มองโลกไปตามความเป็นจริง

ในด้านทางธรรมนั้นก็อีกมากมายมหาศาล
ไม่ว่าจะเป็น บุญ 
ทั้งหยาบและละเอียดที่เราได้รับ
(บุญละเอียด ซึ่งได้จากการนั่งสมาธิ)
ได้กัลยาณมิตร หรือเพื่อนดีๆ 
ที่คอยชักชวนกันไปทำความดี
ทั่วทั้งประเทศรวมตัวกันเป็นเครือข่ายคนดี

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราได้รับ คือ
ทำให้เรารู้ถึงเป้าหมายชีวิต
ว่าชีวิตเราไม่ใช่มีแค่เกิดมา 
เรียนหนังสือ เรียนจบ ทำงาน
มีครอบครัว แล้วก็แก่ 
แล้วก็เจ็บ แล้วก็ตายไป 
หมดเวลาไปชาติหนึ่ง

เป้าหมายชีวิต
ทำให้เราเข้าใจการสร้างบุญ สร้างบารมี
เป็นเสบียงให้ติดตัวเราไปข้ามภพข้ามชาติ
สร้างบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน

ไม่ปล่อยทิ้งลมหายใจ
ไปอย่างไร้ค่า ไร้จุดหมาย 
หรือเรียกง่ายๆ ว่า
หายใจทิ้งไปวันๆ 

ทั้งหมดทั้งมวลนี้
สร้างให้เป็นเราคนใหม่
ที่ดีขึ้นกว่าเดิม
สิ่งสำคัญ...คือ กัลยาณมิตร
ถ้าเราหากัลยาณมิตรได้แล้ว
นั่นจะนำพาเราไปสู่หนทางที่สว่างไสว

และสมาธิ...
จะทำให้เราพบกับความสุขที่แท้จริง
ที่มีอยู่ภายในตัวของเราทุกคน
ไม่ต้องไปแสวงหาที่ไหน
แค่หยุดใจ นิ่งๆ เฉยๆ เบาๆ สบายๆ
ที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ดเหนือสะดือสองนิ้วมือ

เพียงแค่นี้...
รับรองได้ว่า ทุกคนจะต้องมี
...ชีวิตดี๊ดี...

อย่างแน่นอน


...aohheart
11 มี.ค. 59

วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2559

บุญที่ปลื้มมากที่สุด

บุ ญ ที่ ป ลื้ ม ม า ก ที่ สุ ด

ถามว่าบุญอะไรที่เราปลื้มมากที่สุด
จริงๆ แล้ว เราต้องปลื้มทุกๆ บุญ
นึกถึงทุกๆ บุญ
เพราะว่า บุญ เกิดขึ้น 3 วาระ
ก่อนทำ ขณะทำ และหลังทำ
โดยเฉพาะหลังจากที่เราได้ทำบุญไปแล้ว
เราสามารถนึกปลื้มถึงบุญนั้น
ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
คุณก็นึกได้ใช่ไหม?

แต่ถ้าบุญที่ปลื้มมากจริงๆ เกิดขึ้นไม่นานมานี้
คือ บุญกฐินธรรมชัย สร้างทุกสิ่ง ปี พ.ศ. 2558
และหล่อพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ องค์ที่ 8 
อย่างเต็มที่เต็มกำลัง
ซึ่งถือเป็นการตัดใจ
เปลี่ยนโลกิยทรัพย์ให้มาเป็นอริยทรัพย์
เรียกได้ว่า ตั้งใจรื้อผังจน กันเลยทีเดียว

การบุญหล่อพระก็เป็นบุญใหญ่
เราและครอบครัวศรัทธาและเคารพรักท่านมาก
เราก็ทำบุญมากตามศรัทธานั่นเอง

เนื่องจากเราตั้งใจหัดสวดมนต์ธัมมจักกัปปวัตนสูตร
และบทพาหุงฯ ทุกตัวอักษรทุกคำ เราท่อง เราจำ 
เราสวดได้ ตั้งใจเพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา
จึงทำให้ปลื้มมาจนถึงทุกวันนีัเลย

แ ต่ เ ดี๋ ย ว ก่ อ น

มีเพื่อนเราหลายคนถามมาว่า 
ทำไมมาวัดนี้ต้องทำบุญเยอะเหรอ?

เราคิดง่ายๆ ว่า 
คนที่มีเงิน 1 ล้านบาท ทำบุญ 100 บาท
กับคนที่มีเงิน 100 บาท แต่ทำบุญ 99 บาท
ใครได้บุญมากกว่ากัน?
ทำแบบทุ่มสุดใจ น่าจะได้บุญมากกว่า
เพราะปลื้มใจและจำได้ไม่มีวันลืม

อย่ามัวแต่คิดถึงจำนวนเงินเลย
การที่เราซื้อข้าวของเครื่องใช้
กระเป๋า รองเท้า บ้าน รถยนต์ อาหาร
เสื้อผ้า อะไรต่างๆ จิปาถะ
ก็ต้องใช้เงินทั้งนั้น

การที่เขาจะทำบุญมากหรือน้อย
ย่อมขึ้นอยู่กับศรัทธา
แล้วเงินทำบุญนั้น เอาไปใช้ทำอะไร?
เราก็คงเห็นได้ชัดเจนแล้วว่า
วัดพระธรรมกาย นำเงินที่ญาติโยมถวาย
ไปทำอะไรบ้าง?

ทั้งสร้างศาสนสถาน
 เพื่อให้คนมาทำบุญ นั่งสมาธิ

สร้างเยาวชนคนเก่งและดี
 ด้วยการมอบทุนการศึกษา

สร้างศาสนทายาทหรือธรรมทายาท
ด้วยการจัดบวชพระปีละแสนรูปบ้าง ล้านรูปบ้าง

ทุกอย่างเห็นชัดเจนเป็นรูปธรรมทั้งหมด
ทุกอย่างเพื่องานพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น

เราจึงปลื้มใจ
บุญที่เราได้ทำทุกวันๆ 
วันนี้ได้เปลี่ยนเป็นสิ่งที่มีประโยชน์
ต่อพระศาสนา ได้มากมายขนาดนี้

มีเพื่อนสงสัยอีกว่า 
คนเข้าวัดนี้มีแต่คนรวยๆ ทั้งนั้นเลย

จริงๆ ก็นึกขอบคุณเขานะ ที่ให้พรเรา
อยากบอกเลยว่า มาแล้วรวยจริงๆ 
ถ้าอยากรวย ให้รีบเข้าวัดทำบุญกันเยอะๆ นะ


...aohheart
10 มี.ค. 59